จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อราคาสินทรัพย์ดิจิทัล หรือคริปโทเคอร์เรนซีทยอยปรับตัวลดลงตั้งแต่เริ่มต้นปี และลดลงอย่างรุนแรงในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
วันที่ 24 มกราคม 2565 ฟอร์บส รายงานว่า ราคาบิตคอยน์และคริปโทเคอร์เรนซี ได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรงในสัปดาห์นี้ โดยมีมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐที่หายไปจากราคาตลาดของคริปโทเคอร์เรนซีนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564
ยกตัวอย่าง ราคาบิตคอยน์ลดลงต่ำกว่า 35,000 เหรียญ อีเทอเรียมและคริปโทอื่น ๆ ที่สำคัญตกลงมาอยู่ที่ 2,400 เหรียญ ลดลงจากเกือบ 5,000 เหรียญเมื่อปลายปีที่แล้ว
ขณะที่ข้อมูลจากตารางคอยน์มาร์เก็ตแคป ชี้ให้เห็นว่า ราคาบิตคอยน์ (วันที่ 24 ม.ค.2565) ร่วงมากถึง 21% เมื่อเทียบในรอบ 1 สัปดาห์ มาอยู่ที่ 33,700.25 เหรียญสหรัฐ อีเธทอเรียม ร่วง 31% มาอยู่ที่ 2,267.58 เหรียญสหรัฐ ไบแนนซ์คอยน์ ร่วง 29% มาอยู่ที่ 345.66 เหรียญสหรัฐ เป็นต้น
คริปโท 24 ม.ค. 2565
ราคา 5 คริปโท หลัก ณ เวลา 17.35 น. วันที่ 24 ม.ค. 2565
เจพีมอร์แกนเชส บริษัทให้บริการทางการเงินและการลงทุน ออกคำเตือนเรื่องราคาอีเทอเรียมที่จะลดลงอย่างรุนแรงว่า บิตคอยน์ อีเทอเรียม และเหรียญคริปโท 10 อันดับแรก ราคาคงไม่นิ่ง แต่ราคาเหรียญลูน่า (Luna) ของเทอร์รา เพิ่มขึ้น 5% เมื่อวานนี้ (23 ม.ค.)
อย่างไรก็ดี ลูน่า เป็นหนึ่งในคริปโทเคอร์เรนซีที่แสดงประสิทธิภาพดีที่สุดในปีที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 7,500% เทียบกับราคาเมื่อมกราคม 2564
ขณะที่ดอจคอยน์ (Dogecoin) ที่ได้รับการสนับสนุนจากอีลอน มัสก์ ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 4% และปีนกลับไปอยู่ใน 10 อันดับแรกบนกระดานเทรด โดยวัดจากเว็บไซต์ข้อมูลราคาคริปโท CoinmarketCap
ด้านชิบะอินุ (Shiba Inu) ที่เป็นคู่แข่งของดอดจ์คอยน์ก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกันตั้งแต่เกิดการปรับตัวลงอย่างรุนแรงของคริปโท ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 7%
แม้ว่าราคาคริปโทจะลดลงอย่างมาก แต่ผู้เฝ้าดูตลาดหลายคนคิดว่าราคาบิตคอยน์อาจลดลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว
คริปโทลดลงถึงจุดต่ำสุดแล้ว?
ปันกัจ บาลานิ หัวหน้าผู้บริหารของเดลต้า เอ็กซ์เชนจ์ แสดงความคิดเห็นผ่านทางอีเมล์ ระบุว่า “เราคาดว่าบิตคอยน์จะหาจุดเข้าที่ราว ๆ 35,000 เหรียญ ซึ่งใกล้เคียงกับ 50% จากจุดสูงสุด ในระยะสั้น ๆ อาจสามารถดีดตัวขึ้นมาเพื่อท้าทายโซน 45,000 – 50,000 เหรียญ แต่โดยภาพรวมแล้วยังคงมีแนวโน้มเป็นขาลง เนื่องจากสภาพคล่องยังคงตึงตัว”
การร่วงลงของราคาคริปโทนสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดขึ้นเนื่องจากตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างรวดเร็ว โดยยักษ์ใหญ่ แนสแดคตกลงสู่โซนการปรับฐานราคา เนื่องจากนักลงทุนเผชิญกับกฎของธนาคารกลางสหรัฐที่เข้มงวดมากขึ้น
เพียง 20 วันแรกของปีใหม่ สูญเสียเกือบครึ่ง
ขณะที่ ซีเอ็นเอ็นบิสซิเนส รายงานว่า บิตคอยน์สูญเสียมูลค่าไปเกือบครึ่งนับจากราคาสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยราคายังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศเศรษฐกิจหลัก ๆ พยายามที่จะควบคุมกระแสนิยมของคริปโทที่มีมากขึ้น
และไม่เพียงแต่บิตคอยน์เท่านั้น ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีได้เริ่มต้นปีใหม่ 2565 อย่างน่าหดหู่ บิตคอยน์ราคาลดลงมากกว่า 8% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาซื้อขายอยู่ที่ 35,479 เหรียญ ณ เวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกร่วงลงกว่า 20% นับตั้งแต่ต้นปี แม้ในเดือนพฤศจิกายนจะมีราคาซื้อขายสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 68,990 เหรียญ
อีเทอเรียม สกุลเงินดิจิทัลที่มีค่ามากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ร่วงลงมากกว่า 12% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซื้อขายอยู่ที่ 2,400 เหรียญในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 21 ม.ค. นับว่าลดลงเกือบ 30% ตั้งแต่เริ่มต้นปีใหม่
นักลงทุนเริ่มกระวนกระวายใจเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลและสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงอื่น ๆ นับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงรุกมากกว่าที่คาดไว้
รวมถึงรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ก็ออกกฎที่เข้มงวดกับเรื่องนี้เช่นกัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (20 ม.ค.) รอยเตอร์สรายงานว่า ธนาคารกลางของรัสเซียได้เสนอแบนคริปโทและการขุดเหรียญ รัสเซียนับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการขุดคริปโทใหญ่ที่สุดในโลก แต่ธนาคารกลางกล่าวว่ าสกุลเงินดิจิทัลอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางการเงินของประเทศ
ข้อเสนอของรัสเซียเกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่จีนสั่งปราบปรามคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเต็มรูปแบบ โดยห้ามทั้งการซื้อขายและการขุด
ประเทศอื่น ๆ ยังคงไม่จริงจังกับการแบนคริปโทในเดือนพฤศจิกายน อินเดียกล่าวว่ากำลังเตรียมที่จะเสนอร่างกฎหมายที่ใช้ควบคุมสกุลเงินดิจิทัล แม้ว่าจะยังไม่ทราบข้อเสนอนั้นมากนัก ขณะที่นายกรัฐมนตรีเรนทรา โมดี ของอินเดีย กล่าวว่า จำเป็นต้องมีความร่วมมือระดับโลกเพื่อจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นจากคริปโทเคอร์เรนซี
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่มองโลกในแง่ร้าย โกลด์แมน แซกส์ องค์กรใหญ่ตลาดการเงินโลกระบุว่า ราคาของบิตคอยน์อาจสูงถึง 1 แสนเหรียญสหรัฐ ภายใน 5 ปีข้างหน้า อ้างอิงจากรายงานที่ถูกเผยแพร่เมื่อต้นเดือนนี้ นักวิเคราะห์ของธนาคารกล่าวว่าพวกเขาเห็นการเติบโตอย่างมากในภายภาคหน้า เนื่องจากบิตคอยน์จะแย่งส่วนแบ่งตลาดจากทองคำมากยิ่งขึ้น
อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance